แก้วมังกรมี 2 สีหลัก ๆ ที่เรามักเห็นกันตามตลาด คือ “แก้วมังกรเนื้อขาว” กับ “แก้วมังกรเนื้อแดง”

 


แก้วมังกรมี 2 สีหลัก ๆ ที่เรามักเห็นกันตามตลาด คือ “แก้วมังกรเนื้อขาว” กับ “แก้วมังกรเนื้อแดง” (หรือม่วงเข้ม) ถึงจะหน้าตาคล้ายกัน แต่ก็มีความต่างกันอยู่หลายจุด ดังนี้



1. สีของเนื้อใน

แก้วมังกรเนื้อขาว ผิวด้านนอกสีชมพูอมเขียว เนื้อในสีขาว เมล็ดดำ

แก้วมังกรเนื้อแดง ผิวด้านนอกมักออกชมพูเข้มจัด เนื้อในเป็นสีแดงหรือม่วงเข้ม


2. รสชาติ

เนื้อขาว รสจะอ่อนกว่า หวานน้อย สดชื่น เบา ๆ

เนื้อแดง รสหวานกว่าชัดเจน หอมขึ้นนิดหน่อย กินแล้วรู้สึกแน่นกว่านิดหน่อย


3. สารอาหาร

เนื้อแดง มีสารแอนโทไซยานินมากกว่า ซึ่งเป็นสารสีจากธรรมชาติที่พบในผลไม้สีแดงม่วง

เนื้อขาว วิตามินแร่ธาตุก็มี แต่สารต้านอนุมูลอิสระจะน้อยกว่าเนื้อแดง


4. เวลากินแล้วอาจย้อมสีปัสสาวะ

เนื้อแดง บางคนกินแล้วปัสสาวะมีสีชมพูจาง ๆ เป็นผลจากสารสีที่อยู่ในเนื้อผลไม้

เนื้อขาว ไม่ค่อยมีผลในจุดนี้


สรุป

เนื้อขาว รสเบา สดชื่น

เนื้อแดง หวานจัด สีเข้ม มีสารจากธรรมชาติเข้มข้นกว่า


จะเลือกแบบไหนก็แล้วแต่ลิ้นและความชอบเลย ใครกินเพื่อความสดชื่นหลังตากแดด เนื้อขาวก็เหมาะดี ส่วนใครชอบรสชัด สีสด เนื้อแดงก็ตอบโจทย์


ใครควรกินแก้วมังกรบ้าง?

คนที่ท้องผูก ขับถ่ายไม่ดี

คนที่อยากคุมน้ำหนัก กินแล้วอิ่มไม่อ้วน

คนที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

คนที่เจอมลภาวะหรือพักผ่อนน้อย ต้องการสารต้านอนุมูลอิสระโดยเฉพาะเนื้อแดง

และคนที่ดื่มน้ำน้อย ผิวแห้ง ต้องการความสดชื่น


สั้น ๆ คือ แก้วมังกรช่วยเรื่องขับถ่าย สดชื่น ไม่หนักท้อง เหมาะกินเล่นได้ทุกวัน

ที่มา

https://www.facebook.com/share/1Wmhcym55H/

#แก้วมังกร #ผลไม้สุขภาพ #ขับถ่ายดี

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น