ต่างชาติชี้ชัด! “อาหารเขมร” สูญรากแท้ในสงครามกลางเมือง — ปัจจุบันลอกแบบ “อาหารไทย” ทั้งรสชาติและวัฒนธรรม แม้ไม่ยอมรับแต่เห็นได้ชัดทั่วประเทศ

ต่างชาติชี้ชัด! “อาหารเขมร” สูญรากแท้ในสงครามกลางเมือง — ปัจจุบันลอกแบบ “อาหารไทย” ทั้งรสชาติและวัฒนธรรม แม้ไม่ยอมรับแต่เห็นได้ชัดทั่วประเทศ


ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการถกเถียงอย่างต่อเนื่องระหว่างชาวไทยและกัมพูชาเกี่ยวกับ “รากเหง้าทางวัฒนธรรมอาหาร” ที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก โดยล่าสุด นักเขียนและบล็อกเกอร์สายอาหารจากต่างประเทศหลายรายได้ออกมาชี้ว่า อาหารกัมพูชาในปัจจุบันส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากประเทศไทย ทั้งในด้านรสชาติ วิธีปรุง เครื่องปรุง ไปจนถึงการตกแต่งและการนำเสนอ


แหล่งข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์อาหารตะวันตกระบุว่า ในช่วงสงครามกลางเมืองกัมพูชา (พ.ศ. 2513–2522) ระบบสังคมและวัฒนธรรมของกัมพูชาได้รับผลกระทบอย่างหนัก สถาบันครัวเรือนและองค์ความรู้ดั้งเดิมจำนวนมากสูญหายไป ไม่เว้นแม้แต่สูตรอาหารพื้นบ้านที่เคยมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ “รสชาติดั้งเดิมแบบเขมรแท้” ค่อย ๆ จางหายไปจากสังคม


ภายหลังยุคสงคราม เมื่อกัมพูชาเริ่มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและเปิดประเทศ อิทธิพลของ วัฒนธรรมไทย ได้หลั่งไหลเข้าสู่ประเทศผ่านสื่อ โทรทัศน์ เพลง ภาพยนตร์ รวมถึงการค้าชายแดน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อพฤติกรรมการบริโภคและรสนิยมด้านอาหาร คนรุ่นใหม่ในกัมพูชาเติบโตมากับรสชาติแบบไทย ไม่ว่าจะเป็น “แกงเขียวหวาน”, “ต้มยำกุ้ง”, “ผัดไทย” หรือแม้แต่ “น้ำพริกกะปิ” ที่กลายเป็นเมนูยอดนิยมตามร้านอาหารในพนมเปญและเสียมราฐ


นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางไปกัมพูชาไม่น้อยต่างให้ความเห็นตรงกันว่า อาหารเขมรหลายเมนูมีรสชาติและรูปลักษณ์ใกล้เคียงกับอาหารไทยอย่างมาก จนบางครั้งแทบแยกไม่ออก เช่น “อาม็อก” ที่มีความคล้ายคลึงกับ “ห่อหมกปลา” ของไทย หรือ “ซุปขแมร์” ที่มีรสใกล้เคียงกับ “ต้มยำบ้านเรา” เพียงแต่รสชาติจะอ่อนกว่าและมีกลิ่นเครื่องเทศน้อยกว่า



ถึงแม้ชาวกัมพูชาหลายคนจะไม่ยอมรับอิทธิพลนี้ โดยมองว่าเป็นการ “ตีตรา” หรือ “ดูหมิ่นเอกลักษณ์ท้องถิ่น” แต่ข้อเท็จจริงทางวัฒนธรรมกลับสะท้อนให้เห็นชัดว่า soft power ไทย ได้ซึมซับเข้าไปในวิถีชีวิตของเพื่อนบ้านในทุกระดับ ตั้งแต่ภาษา การแต่งกาย เพลง ไปจนถึงอาหาร


นักวิเคราะห์จากสื่อในยุโรปยังระบุเพิ่มเติมว่า “สิ่งที่เรียกว่า ‘อาหารเขมรดั้งเดิม’ ในปัจจุบันนั้น อาจเป็นเพียงส่วนผสมของรสชาติจากเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะจากไทยและเวียดนาม มากกว่าจะเป็นสูตรแท้ดั้งเดิมของกัมพูชาเอง”


กล่าวได้ว่า สงครามกลางเมืองไม่เพียงทำลายชีวิตผู้คน แต่ยังได้ทำลาย เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอาหารของกัมพูชา ไปด้วย และสิ่งที่เหลืออยู่ทุกวันนี้ คือรสชาติที่ได้รับการฟื้นฟูและหลอมรวมกับวัฒนธรรมไทยอย่างแนบแน่น


แม้จะมีการปฏิเสธและโต้แย้งจากฝั่งกัมพูชา แต่ในสายตาของนักท่องเที่ยวและผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ “ความเป็นไทย” ในรสชาติของอาหารเขมรนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ.

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น